Ghost in the shell (movie 2017) - รีวิวหนังใหม่ที่สร้างจากการ์ตูนดังในอดีต

Ghost in the shell

เรื่องนี้เป็นผลงานที่สร้างมาจากมังงะ (การ์ตูนญี่ปุ่น) ของคุณชิโระ มาซามุเนะ ที่เคยเป็นการ์ตูนเอนิเมชั่นมาก่อน กำกับแอนิเมชั่นโดยคุณโออิชิ มาโมรุ ซึ่งมีทั้งหมดสองภาค ออกมาในปี 1995 และปี 2004 ซึ่งตอนนี้ก็ถึงคราวฝั่งฮอลลีวูดได้หยิบยกเรื่องราวนี้มานำเสนอในรูปแบบของเขาเองบ้าง


เรื่องย่อ

ตัวเอกของเรื่องคือ "ผู้พัน (the major)" ซึ่งร่างกายทุกส่วนเป็นหุ่นยนต์ ยกเว้นสมองที่เป็นมนุษย์ ซึ่งเธอได้รับหน้าที่ทำงานอยู่ในหน่วย Section 9 เป็นหน่วยที่คอยปราบปรามเหล่าร้ายแห่งโลกในยุคอนาคตนั้น ซึ่งในเรื่องเธอต้องเผชิญกับการก่อการร้ายด้านเน็ตเวิร์ค ที่พยายามแฮ็คสมองมนุษย์เพื่อทำบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งตัวเอกต้องพยายยามหยุดยั้ง และยังต้องหาคำตอบกับสิ่งมี่คาใจให้ได้ว่าตัวเธอเองยังคงมีความเป็นมนุษย์หรือไม่















จากที่ได้ดูมา สามารถวิเคราะห์ประเด็นของหนังออกเป็นส่วนย่อยๆได้ดังนี้ (นี้คือความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั่น ไม่มีเจตนาอวยหรือด่าแต่อย่างใด)



  • เริ่มเรื่องได้กระชับ โดยตัวเอก ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่าผู้พัน(the major) ซึ่งขณะนั้นประสบอุบัติเหตุ โดยเธอได้ถูกปลูกถ่ายสมองไปเชื่อมต่อกับร่างของหุ่นยนต์ ซึ่งจุดประสงค์หลักของการทำเช่นนี้ก็เพื่อจะให้เธอกลายเป็น "อาวุธ" ที่ทรงพลังและมีสติปัญญาทีสุดของบริษัท Hanka ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่นำมาสู่ความคิดที่ว่า "จริงๆแล้วเธอคือใคร นั่นเป็นแค่ความคิดหรือความรู้สึก" 
  • การเล่าเรื่อง ค่อยๆขยายสเกลเนื้อเรื่องให้น่าติดตามไปเรื่อยๆ โดยประเด็นเริ่มต้นมาจากการค้นหาที่มาที่ไปของตัวผู้พัน รวมทั้งการเล่าเรื่องราวขององค์กร และค่อยๆเผยภูมิหลังตัวร้าย เนื้อเรื่องค่อยๆขมวดปมใหม่และคลายปมเก่าไปเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อผู้พันค่อยๆรื้อฟื้นเรื่องราวในอดีตของตัวเอง และเรื่องราวของตัวละครอื่นๆ เริ่มคลี่คลายแล้ว สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้ชมค่อยๆดำดิ่งสู่เนื้อเรื่องลึกลงไปเรื่อยๆ เสมือนเราอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
  • ความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละคร เป็นจุดที่นำเสนอน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับด้านอื่นๆ เนื่องด้วยตัวหนังต้องการโฟกัสที่ตัวผู้พันเป็นหลัก ทำให้ในบางครั้ง คนที่ไมเคยดูหรือสัมผัสเวอร์ชั่นก่อนหน้ามาอาจจะไม่รู้สึกอินกับตัวละครอื่นๆมากนัก แต่ว่าตัวหนังก็เก็บในจุดเด่นๆ และความสามารถและลักษณะสำคัญของแต่ละตัวละครได้ดีพอควรในเวลาที่เหมาะสม

  • การดำเนินเรื่องอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้ละทิ้งจุดหนึ่งจุดใดไปเลยและไม่มีช่วงไหนขยายความหรือยืดเนื้อเรื่องจนเกินจำเป็น คือเล่าเรื่องไปอย่างลื่นใหล ทำให้ผู้ชมคล้อยตามแล้วก็สร้างปมประเด็นใหม่ให้ผู้ชมได้คิดตามต่อไปอีกตลอดทั้งเรื่อง ด้านความโดดเด่นของตัวละครอาจจะมีแค่ตัวหลักคือผู้พัน แต่ว่าในเรื่องในแต่ละช่วงก็จะมีซีนเด่นๆของเหล่าตัวละครอื่นๆ ที่สำคัญในฉากนั้นๆออกมาแบบที่ว่า ดูสนุกและไม่ยัดเยียดให้คนดูมากเกินไป

  • งานภาพที่ดูดี เอฟเฟกต์สวยงาม ไม่เยอะเกินไป ด้วยการออกแบบที่อ้างอิงมาจากการ์ตูนในแบบฉบับเดิม(ตัวผู้เขียนเองไม่เคยดูภาคแอนนิเมชั่นใดๆมาก่อนเลยอาจจะไม่ทราบรายละเอียดมากนัก) ยานพาหนะต่างๆ ดูแข็งแกร่งและดูล้ำยุค และฉากต่างๆชวนให้นึกถึงอนาคต โดยที่ทุกอย่างไม่ได้ถูกสร้างโอเวอร์มากจนเกินไป ทำให้เราสามารถอินและสนุกกับบรรยากาศในเรื่องมาก














สรุป

  • หนังเรื่องนี้เป็นความสมบูรณ์ในด้านอารมณ์ คือมีทุกมิติ ทั้งความรัก ดราม่า ความแค้น ความสับสน การต่อสู้ดิ้นรน รวมทั้งประเด็นใหญ่ๆ คือการสื่อถึงจิตใจมนุษย์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับคนที่ชอบสายบู๊ล้างผลาญ เพราะเนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้เน้นฉากบู๊มากเท่าที่คุณต้องการ แต่หนังจะอัดแน่นอารมณ์ให้เราในการติดตาม การคลี่คลายปมต่างๆในแต่ละช่วง ซึ่งทำออกมาได้ดีพอสมควร คอหนังแนวใช้ความคิดน่าจะถูกจริตกับเรื่องนี้ ตัวหนังได้มีปมมากมายทิ้งไว้ให้เราคิดวิเคราะห์และติดตามต่อ ยิ่งผู้ที่ไม่เคยดูภาคใดๆมาก่อนจะเดิดคำถามมากมายในหลายๆฉาก และหนังไม่ได้ไร้จุดหมายและไม่ได้จบแบบสามบูรณ์แบบอย่างที่หลายๆคนพูดถึงกัน โดยรวมเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่คอหนังไม่ควรพลาดครับ


แถมท้ายด้วย Trailer



คะแนน 8.5/10



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม